การเพิ่มขึ้นของการครอบครองยานพาหนะส่วนตัวและการลดลงของการใช้ขนส่งสาธารณะ รวมถึงการขนส่งที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดในประเทศอินเดียอย่างมาก ยิ่งเมื่อบวกกับการเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ปัญหาเกี่ยวกับถนนที่คับแคบ และพื้นที่ที่จอดรถไม่เพียงพอในชุมชนเมือง ส่งผลให้นี่กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่รัฐส่วนกลางของอินเดียอยากแก้
หนึ่งในนั้นคือรัฐในภาคส่วนของเมืองนิวเดลีที่ได้ตระหนักถึงความท้าทายดังกล่าว และได้พัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนเมื่อกันยายนนี้เองที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของเมืองนิวเดลีได้ออกมาเผยว่าพวกเขาได้ค้นพบทางแก้สำหรับปัญหานี้แล้ว นั่นคือบริการที่ “แท็กซี่ทางอากาศ”
หรือพูดง่ายๆ เมืองนิวเดลีกำลังพัฒนา “เครื่องบินแท็กซี่” อยู่นั่นเอง
โดยรัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้เกิดรูปแบบการขนส่งใหม่นี้อย่างเต็มรูปแบบ เช่น การจัดทำกฎระเบียบสำหรับการสร้างสนามบินทางอากาศ (Vertiports) เพื่อวางพื้นฐานสำหรับการให้บริการเครื่องบินแท็กซี่ในอนาคต
และท่ามกลางการพัฒนาจากส่วนกลางนั้น ภาคเอกชนก็รับลูกมาพัฒนาต่อเช่นกัน โดยเฉพาะสตาร์ทอัพที่กำลังขับเคลื่อนแนวโน้มนี้อย่างเต็มกำลัง ในชื่อบริษัท ePlane ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ผ่านความเชี่ยวชาญของศาสตราจารย์สัตยา ชักราวาร์ธี จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย (IIT Madras) ผู้เชี่ยวชาญในด้านการบินอวกาศและผู้พัฒนาต้นแบบยานพาหนะเครื่องบินแท็กซี่
โดยศาสตราจารย์ชักราวาร์ธีศาสตราจารย์ชักราวาร์ธีได้กล่าวถึง ePlane ว่าเนื่องด้วยบริษัทได้รับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับการพัฒนาเครื่องบินสำหรับการเดินทางภายในเมืองและการขนส่งสินค้า บริษัทจึงคิดออกแบบเครื่องบินให้ตอบโจทย์มากที่สุด จนเกิดเป็นต้นแบบของเขาที่มีความเร็วในการบินที่ช้ากว่าและมีปีกที่กะทัดรัดเพียง 8 เมตร ซึ่งจากความสามารถดังกล่าวช่วยให้สามารถลงจอดในพื้นที่แคบและทำเที่ยวบินสั้นๆ ได้หลายเที่ยว โดยรองรับได้ถึง 60 เที่ยวต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถลดเวลาในการเดินทางได้ถึง 85% ในราคาที่ไม่เกินสองเท่าของค่าโดยสารใน Uber
จากความสำเร็จของต้นแบบนี้เอง ที่ทำให้ภาพฝันของอินเดียดูเหมือนจะใกล้ความจริงมากเข้าไปทุกทีแล้ว โดยในระหว่างนี้ที่รัฐสร้างระบบเพื่อรองรับ ศาสตราจารย์ชักราวาร์ธียังได้ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าบริษัทก็ยังคงพยายามพัฒนาต้นแบบเครื่องบินแท็กซี่ให้พร้อมสำหรับการนำมาใช้จริงให้ได้สมบูรณ์แบบ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนในประเทศในอนาคตนั่นเอง