คำตอบจากงานวิจัยล่าสุด โซเชียลมีเดียมีผลต่อสุขภาพจิตอย่างไร? อัพเดตฉบับปี 2024 ต่างจากที่เราเคยเข้าใจ

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้เห็นชุดความรู้ที่ว่า “โซเชียลมีเดียส่งผลต่อสุขภาพจิต” ไม่มากก็น้อย โดยถูกอธิบายว่าผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียมาก มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพมากตามไปด้วย


องค์คงวามรู้ที่ว่าได้รับการพูดถึงอยู่หลายปี แต่ในขณะเดียวกัน พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียและคววามเข้าใจต่อเรื่องสุขภาพจิตของมนุษย์ก็เปลี่ยนไปทุกวัน และเปลี่ยนไปตามเจเนอเรชั่น ดังนั้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีการเผยแพร่งานวิจัยใหม่ผ่าน Social Science & Medicine ถึงผลการศึกษาในปี 2024 ต่อหัวข้อดังกล่าว ซึ่งกลายเป็นว่าเปลี่ยนองค์ความรู้เดิมไปพอสมควร


เพราะงานวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัย Curtin นี้ ได้เสนอว่าการใช้สื่อสังคมออนไลน์กับผลกระทบต่อสุขภาพจิตนั้นมีความสัมพันธ์ระหว่างกันในระดับที่น้อยหรือไม่มีเลยในยุคสมัยปัจจุบันแล้ว


โดยงานวิจัยดังกล่าวได้แสดงข้อมูลให้เห็นว่าปริมาณเวลาที่ใช้บนสื่อสังคมออนไลน์มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นต่อสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียด อีกทั้งในบางกรณีผลที่ได้ก็เป็นไปในทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ คือไม่จำเป็นต้องเป็นไปในทางลบเสมอไป กรณีที่การใช้โซเชียลมีเดียสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพจิตก็เกิดขึ้นแล้วในยุคนี้


แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยผลการศึกษาดังกล่าว Chloe Jones ผู้นำงานวิจัยก็ได้แสดงความเห็นไว้ด้วยว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะไม่ด่วนสรุปเหมือนที่เคยทำ ว่าสื่อสังคมออนไลน์ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตอีกแล้ว กล่าวคือเธออยากให้ผลการศึกษานี้สร้างความเข้าใจมากกว่า ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองสิ่งนี้ซับซ้อนมาก ในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป กล่าวคือไม่สามารถบอกหรือเหมารวมได้ว่าผลจะเป็นเชิงบวกหรือเชิงลบขนาดนั้น


"ตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับชุมชนที่สนับสนุนในโลกออนไลน์อาจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยู่ในสภาวะที่ถูกกีดกันจากสังคม แต่ในขณะเดียวกัน การดูอินฟลูเอนเซอร์บน Instagram หลายชั่วโมงก็อาจไม่ดีนักถ้าคุณมีปัญหาเรื่องความกังวลต่อภาพลักษณ์" โจนส์กล่าว


อีกทั้งในงานวิจัย ยังมีการบรรยายไว้ด้วยว่าแพลตฟอร์มที่ต่างกัน ก็ให้ผลรับต่อผลกระทบที่ต่างกัน เช่น การใช้ TikTok พบว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเรื่องของสมาธิ ในขณะที่การใช้ Facebook มีความสัมพันธ์เชิงลบต่อความเครียดของผู้ใช้ เป็นต้น โดยผู้ศึกษาได้ให้ความเห็นว่าอาจเป็นเพราะอายุของผู้ใช้ก็ได้