เมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่ามีข่าวใหญ่จากแวดวงปัญญาประดิษฐ์ของประเทศจีน นั่นคือเจ้าของ TikTok อย่างบริษัท ByteDance ได้ประกาศว่าได้ไล่พนักงานฝึกงานคนหนึ่งออกจากงาน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ "รบกวนอย่างมุ่งร้าย" ต่อการฝึกฝนโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัท
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์แพร่กระจายไปยังสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมาจากโปรเจ็กต์การพัฒนาโมเดล AI ของ ByteDance ที่ชื่อว่า Doubao ที่คล้ายกับ ChatGPT กล่าวคือเป็นแชตบอท AI ที่พวกเขามุ่งหวังว่าจะคว้าอันดับหนึ่งความนิยมสูงสุดในประเทศจีนให้ได้
โดยตามข่าวลือ มีการระบุว่า ByteDance สูญเงินในเหตุการณ์ครั้งนี้สูงถึง 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 335 ล้านบาท) นั่นเองที่ทำให้ข่าวนี้ได้รับการพูดถึงอย่างหนาหู แต่ล่าสุด บริษัทได้กล่าวเพิ่มเติมต่อข่าวลือนี้แล้ว ว่าข้อมูลในบางสื่อต่างๆ นั้นไม่ถูกต้อง อีกทั้งโมเดล AI ขนาดใหญ่ของบริษัทก็ไม่ได้มีผลกระทบจากการกระทำของนักศึกษาฝึกงานแต่อย่างใด
แต่ถึงจะออกมาแก้ข่าวแล้ว สังคมออนไลน์ในประเทศจีนก็ใช่ว่าจะเชื่อเสียทีเดียว บ้างให้ความเห็นว่า ByteDance อาจกลัวว่าข่าวดังกล่าวจะทำให้ความน่าเชื่อถือของ Doubao ลดน้อยลงไปได้ อีกทั้งยังได้ค้นพบความจริงอีกข้อด้วยว่า ByteDance ได้แจ้งมหาวิทยาลัยที่พนักงานฝึกงานศึกษาอยู่ด้วย ถึงความผิดพลาดดังกล่าว อีกทั้งยังแจ้งข้อมูลไปถึงหน่วยงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีกต่างหาก ว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ชาวเน็ตในประเทศจีนจึงลงความเห็นว่าการขยับเขยื้อนในระดับที่จริงจังขนาดนี้ ความเสียหายน่าจะเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ตามที่ ByteDance ออกมาแก้ต่างแต่อย่างใด
ปัจจุบัน ByteDance ดำเนินการแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก อย่าง TikTok และยังมีการลงทุนอย่างหนักในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อีกด้วย โดยเฉพาะแชตบอท Doubao และแอปพลิเคชันอื่น ๆ รวมถึงเครื่องมือแปลงข้อความเป็นวิดีโอที่ชื่อว่า Jimeng เหล่านี้คืออนาคตที่ ByteDance ตั้งใจจัทำให้เกิดขึ้นทั้งสิ้น