เสริมแรงกระตุ้นยอดขายด้วยน้องแมว

เสริมแรงกระตุ้นยอดขายด้วย “น้องแมว”
Cat Marketing การตลาดที่ตกทาสได้แม้สินค้าไม่ได้เกี่ยวกับแมว
_______


หากใครยังจำกันได้ ก่อนนานนี้มีร้านอาหารในแอปพลิเคชันเดลิเวอรีหนึ่ง ได้สร้างไวรัลแสนน่ารัก จากการผุดไอเดียเพิ่มเมนู ‘เชกิตุ่น’ ซึ่งหมายถึงรูปถ่ายโพลารอยด์เจ้าแมวสีครีมตุ้ยนุ้ยของทางร้าน ในราคา 40 บาท โดยแบ่งเป็นต้นทุน 20 บาท และอีก 20 บาทเป็นค่าแมวเลียให้เจ้าตุ่น เรียกยอดออเดอร์ได้ถล่มทลายจากชาวทาสทั้งหลายที่อยากมีรูปถ่ายน่ารัก ๆ ของเจ้าตุ่นไว้ในครอบครอง และช่วยสนับสนุนค่าแมวเลียให้นายแบบขนฟูของเราได้อิ่มหนำ

⠀⠀⠀ความน่าสนใจของไวรัลนี้ คือการที่สินค้าตั้งต้นของร้านไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับแมวเลยแต่อย่างใด แต่ความน่ารักของเจ้าแมวครีมก็สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามากดออเดอร์กับที่ร้านได้ เพราะชาวทาสหลายคนพอใจที่จะมีส่วนร่วมกับ “อะไรก็ตามที่มีแมวอยู่ในนั้น” 

ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากพาทุกคนมารู้จัก “Cat Marketing” อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่พึ่งพาความน่าเอ็นดูของเจ้าเหมียวมาช่วยเสริมแรงกระตุ้นยอดขายให้ปัง ๆ 



แวะดูความหมายกันสักนิด Cat Marketing คืออะไร 

⠀⠀⠀Cat Marketing หมายถึง กลยุทธ์การตลาดที่ใช้แมวเป็นตัวกลางในการสื่อสารไปยังผู้บริโภค ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ เป็นตัวหลักในป้ายโฆษณา อินโฟกราฟิก รูปภาพ วิดีโอ การปั้นให้แมวเป็น Influencer หรือการทำสินค้าคอลเลกชันพิเศษที่มีเจ้าเหมียวเป็นองค์ประกอบในนั้น เป็นต้น เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นการ “ใส่แมว” เข้ามาในธุรกิจของเราทางใดทางหนึ่ง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคนั่นเอง



ทำไม Cat Marketing ถึงตกทาสได้เสมอ

⠀⠀⠀เคยได้ยินไหมว่า “ทาสแมวจะมองเห็นแมวในทุกที่” นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการปรากฎตัวของน้องแมว ไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ก็จะดึงดูดความสนใจของชาวทาสได้อย่างรวดเร็วเสมอ 

จากผลการศึกษาของ Sortlist ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์ วิดีโอโฆษณาถึง 500 ตัว ใน YouTube พบว่า โฆษณาที่มี “แมว” สามารถช่วยเพิ่มยอดวิวได้สูงถึง 2,700% เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับคลิปอื่น ๆ ในช่อง YouTube ของแบรนด์เดียวกัน ซึ่งนอกจากการดึงดูดความสนใจแล้ว “แมว” ยังสามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมของชาวทาสได้อีกด้วย จากการศึกษาเดียวกันของ Sortlist พบว่า หากเป็นคอนเทนต์โพสต์แบบออร์แกนิกที่มี “แมว” และสุนัขอยู่ในนั้น จะมียอดไลก์เพิ่มขึ้นถึง 337% และมีการแสดงความคิดเห็นเพิ่มขึ้นถึง 227% 

หรือถึงแม้จะไม่มีผลการศึกษาเป็นรูปธรรม เราก็สามารถมองเห็นได้จากหลาย ๆ กรณีตัวอย่างที่คอนเทนต์เกี่ยวกับแมวมักได้รับความสนใจสูง ไม่ว่าจะเป็น เจ้าแมวอ้วนชิฟูที่ตกลงมาใส่รถจนกระจกยุบ เชกิตุ่นที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหาร หรือเมื่อไม่นานนี้กับคอนเทนต์ “Lucky Cat” ที่ตอนแรกผู้โพสต์หวังจะให้แชร์เพื่อความโชคดี แต่หลายคนก็เลือกจะแชร์เพราะความน่ารักของน้องแมวแทน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหลักประกันได้เป็นอย่างดีว่ามนุษย์เป็นทาสแมวมาร่วม 3,000 กว่าปีตั้งแต่สมัยอียิปต์นั้น ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย



ธุรกิจใช้ประโยชน์จาก Cat Marketing ได้อย่างไรบ้าง 

  • ใส่น้องแมวลงในคอนเทนต์ 

⠀⠀⠀หากเราจะทำคอนเทนต์ขึ้นมาสักชิ้นเพื่อโปรโมตธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นอินโฟกราฟิก ภาพ-วิดีโอโฆษณา หรือบทความ การลองใช้แมวเป็นตัวละครในภาพหรือการดำเนินก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ยกตัวอย่าง แบรน์กระเป๋าที่พิสูจน์ความทนทานของสินค้าโดยให้น้องแมวหน้าดุมาข่วนกระเป๋าโชว์ หรือ Pizza Hut ของประเทศญี่ปุ่นที่ใช้แก๊งเจ้าเหมียวเป็นตัวแทนพนักงาน โชว์กระบวนการต่าง ๆ ในร้านก่อนพิซซ่าจะส่งไปถึงมือผู้บริโภค ซึ่งเหล่านี้ ดึงดูดการมีส่วนร่วมของชาวทาสได้อย่างล้นหลาม เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้เจอกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น

  • ผสานน้องแมวเข้ากับสินค้า 

⠀⠀⠀เรียกว่าเป็นอาศัยความน่ารัก น่าเอ็นดูของเจ้าเหมียว มากระตุ้นยอดขายให้กับสินค้า อาจทำได้โดยการออกแบบสินค้ารุ่นพิเศษให้เป็นรูปแมว หรือมีหน้าแมวอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ยกตัวอย่าง แก้วทรงอุ้งเท้าแมวของ Starbucks เคสโทรศัพท์ลายแมวของ Casetify เนื้อลิปสติกที่ขึ้นรูปออกมาเป็นหัวน้องแมว ของ Paul & Joe เป็นต้น

  • สร้างแคมเปญสำหรับแมวโดยเฉพาะ 

⠀⠀⠀ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ แคมเปญ KFC BONE TIE ที่นำกระดูกไก่มาผ่านกระบวนการผลิตออกมาเป็นขนมขัดฟันน้องหมา ไปพร้อม ๆ กับการเป็นกระบอกเสียงให้ลดการให้กระดูกไก่กับสัตว์เลี้ยง สำหรับ Cat Marketing เราอาจทำได้โดยเริ่มจากเชื่อมโยงแมวเข้ากับธุรกิจของตัวเอง ว่ามีจุดไหนที่สามารถจะนำมาตั้งเป็นแคมเปญได้ อาทิ คาเฟ่นมสด อาจจัดกิจกรรมเล็ก ๆ ประกวดส่งรูปน้องแมวลายวัวเพื่อแลกรางวัลจากทางร้าน ซึ่งกิจกรรมประเภทนี้ สามารถกระตุ้นการรับรู้และการมีส่วนร่วมของชาวทาสได้เป็นอย่างดีในระยะเวลาสั้น ๆ 

  • ปั้นน้องแมวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ 

⠀⠀⠀สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่เลี้ยงแมวอยู่แล้ว นี่เป็นอีกวิธีที่ไม่เลวเลยทีเดียว การลงรูปน่ารัก ๆ หรือกวน ๆ ของน้องแมวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรือตั้งน้องแมวเป็นพรีเซนเตอร์อย่างเป็นทางการก็ช่วยกรุยทางให้ธุรกิจได้ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าชาวทาสส่วนใหญ่พร้อมจะมีส่วนร่วมกับทุกสิ่งที่มีแมวอยู่ในนั้น ยกตัวอย่าง สินค้าเนื้อแดดเดียวตาอีเหมียวปีนตู้กับข้าว ที่ใช้ทั้งชื่อ โลโก้ และภาพสำหรับการโปรโมตสินค้าเป็นน้องแมวที่เจ้าของธุรกิจเลี้ยงทั้งสิ้น ทำให้สามารถสร้างได้ทั้งยอดผู้ติดตาม “อีเหมียว” และยอดขายสินค้าไปพร้อม ๆ กัน 



⠀⠀⠀ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ยุคใหม่ที่เราอยากแนะนำให้ได้นำไปปรับใช้เพื่อกระตุ้นการรับรู้และยอดขายสินค้า รับรองว่าต้องได้ผลอย่างแน่นอน หรือถ้าไม่เชื่อก็ลองส่อง ๆ คอนเทนต์เกี่ยวกับแมวตามโซเชียลมีเดียดูก่อน แล้วคุณอาจจะเซอร์ไพรส์กับพลังของทาสแมวทั้งหลายก็ได้ 


#CMUSTeP #MakeInnovationSimple #CreativeSTeP #StartupStory #CatMarketing #การตลาดน้องแมว #การตลาดสัตว์เลี้ยง 


แหล่งอ้างอิง 

https://www.longtungirl.com/8774

https://stepstraining.co/strategy/cat-marketing-strategies

https://digimusketeers.co.th/blogs/online-marketing/คอนเทนต์สัตว์เลี้ยง