__________
⠀⠀⠀ต้องยอมรับว่า วิถีการทำงานยุคใหม่ที่อาศัยแอปพลิเคชัน LINE เป็นตัวกลางในการสื่อสารนั้น ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งในส่วนของการติดต่อประสานงาน การสร้างกลุ่มเพื่อพูดคุย-แจ้งข่าว การโทรกลุ่มเพื่อประชุมสาย การส่งรูปหรือแลกเปลี่ยนไฟล์ให้กันและกันได้อย่างสะดวก เรียกว่าลดข้อจำกัดด้านระยะห่างและทรัพยากรไปได้เยอะเลยทีเดียว
แต่ก็มีส่วนที่ต้องทำใจยอมรับเช่นกัน เมื่อ LINE เป็นแอปพลิเคชันที่แต่เดิมเราใช้เพื่อพูดคุยกับครอบครัว เพื่อน และคนใกล้ชิด พอถูกนำมาใช้กับการทำงาน ก็พาลทำให้เส้นแบ่งระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัวทับซ้อนกันไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เล่นเอาบางคนขยาดกับการเห็นแจ้งเตือนจาก LINE ไปเลย
นอกจากนี้ LINE เองก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานได้อย่างเต็มร้อย ทำให้หลายครั้งที่เราเจอปัญหาไฟล์งาน ไฟล์รูปภาพ หายหรือหมดอายุ จำนวนแชทที่เลื่อนขึ้นก็ทำให้ติดตามงานได้ยาก ถือเป็นความไม่สะดวกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หากเจอบ่อยเข้าก็ลำบากใจเช่นกัน
แล้วถ้าไม่คุยงานใน LINE จะไปคุยได้ในไหนบ้าง
⠀⠀⠀ด้วยเหตุนี้ STeP เราจึงอยากมาแนะนำ 3 แอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับใช้คุยติดต่อสื่อสารเรื่องงานสุด ๆ ไม่ว่าจะ Voice Call หรือ Video Call ก็ลื่น สามารถเก็บไฟล์ได้ยาว ๆ แบบไม่หาย ไม่หมดอายุ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยติดตามงาน ให้เราสามารถจัดลำดับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาไล่ดูไปด้วยกันว่าแอปฯ ไหนจะตอบโจทย์เราที่สุด
.
.
Discord
⠀⠀⠀เปิดตัวกันด้วยแอปพลิเคชันที่ชาวเกมเมอร์คุ้นหน้าคุ้นตากันดี มีต้นกำเนิดมาจากความต้องการที่จะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับพูดคุยระหว่างเล่นเกมที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่ทำให้เกมเกิดอาการดีเลย์ นั่นจึงกลายเป็นจุดแข็งของแอปฯ นี้
Discord มาพร้อมฟีเจอร์เด่นคือสามารถตั้งห้องสำหรับสนทนาได้เยอะและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกันด้วยข้อความแชต (Text Channel) การพูดคุยกันด้วยเสียงสนทนา (Voice Channel) หรือการพูดคุยผ่านวิดีโอ (Video Call) ซึ่งรองรับไปถึงการแชร์หน้าจอ สามารถรับ-ส่งไฟล์รูปภาพหรือไฟล์งานได้ขนาดใหญ่สุดที่ไม่เกิน 8MB โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าไฟล์จะหายหรือหมดอายุ นอกจากนี้ Discord ยังสามารถเพิ่มบอตต่าง ๆ เข้ามาในห้องแชตได้ อาทิ บอตแจ้งเตือนการประชุมสำคัญ บอตช่วยติดตามงานหรือรายการที่ต้องทำ เรียกว่าครบเครื่องสำหรับชาวออฟฟิศเลยทีเดียว
Discord ให้การรองรับทุกระบบปฏิบัติการ (OS) สามารถใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตได้อย่างไม่มีปัญหา
.
.
Slack
⠀⠀⠀มาต่อกันที่แอปพลิเคชันสำหรับแชตพูดคุยที่ชื่ออาจไม่คุ้นหู แต่ช่วยชีวิตชาว Work From Home มาแล้วนักต่อนัก ด้วยฟีเจอร์การสร้างห้องสนทนาที่ใช้งานสะดวก พร้อมการแบ่ง Channel ผ่าน “#” ให้เราสามารถอัปเดตงานผ่าน “#” ได้เลย ช่วยให้ง่ายต่อการติดตามงาน
จุดแข็งอีกอย่างของ Slack คือฟีเจอร์การพูดคุยแบบเธรด โดยใน 1 ข้อความนั้น เราสามารถเข้าไปคอมเมนต์หรือตอบกลับประเด็นในข้อความเหล่านั้นได้เลย ช่วยให้สามารถจับประเด็นได้ง่ายขึ้นและจบการพูดคุยได้ในช่องข้อความนั้น ง่ายต่อการย้อนกลับไปอ่าน ทั้งยังรองรับการส่งไฟล์งานได้สูงสุดไม่เกิน 5GB (สำหรับเวอร์ชันฟรี) โดยไม่มีวันหมดอายุ รองรับการโทร (Voice Call) แบบส่วนตัวและกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การตั้งเวลาเปิด-ปิดแจ้งเตือนเฉพาะกลุ่ม หรือการตั้งเวลาส่งข้อความ เหมาะกับองค์กรที่เน้นการพูดคุยประสานงานกันตลอดเวลาอย่างยิ่ง
Slack ให้การรองรับทุกระบบปฏิบัติการ (OS) ร่วมถึงการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้บนทุกอุปกรณ์ และยังให้การรองรับไฟล์จาก Google Docs และ Dropbox ในการซิงค์อีกด้วย
.
.
Microsoft Teams
⠀⠀⠀ปิดท้ายกันด้วยแอปพลิเคชันจากบ้าน Microsoft ที่เรียกว่าครบเครื่องเลยทีเดียว ด้วยจุดแข็งคือการซิงค์ข้อมูลกับ Onedrive โดยอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถแก้ไขไฟล์งานในตระกูล Microsoft ออนไลน์ร่วมกับคนอื่นได้แบบเรียลไทม์
Microsoft Teams ยังเด่นในเรื่องฟีเจอร์สำหรับการประชุม รองรับการประชุมได้ทั้งแบบ Call และ Video Call โดยสามารถบันทึกไฟล์วิดีโอเก็บไว้ดูย้อนหลังได้ ทั้งยังมีระบบจัดเก็บไฟล์เป็นโฟลเดอร์ที่ใช้งานง่าย คล้ายกับการสร้างโฟลเดอร์บนคอมพิวเตอร์ โดยที่ไฟล์ไม่หายและไม่หมดอายุ (แต่พื้นที่จัดเก็บไฟล์ค่อนข้างน้อย หากต้องใช้งานจริงจัง แนะนำให้สมัครแพคเก็จเพิ่ม) และนอกจากนี้จุดแข็งอีกอย่าง คือฟีเจอร์การสั่งงาน (Assignment) ที่สามารถสั่งผ่านแอปฯ ไปยังผู้รับงานและสามารถติดตามความคืบหน้าของงานได้อย่างสะดวก ตอบโจทย์สำหรับองค์กรใหญ่ที่เน้นการทำงานออนไลน์เป็นหลัก
Microsoft Teams ให้การรองรับทุกระบบปฏิบัติการ (OS) รวมถึงการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ สามารถเปิดไฟล์ที่ซิงค์ไว้บน Onedrive ได้กับทุกอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่โดยไม่ต้องแบกคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตไปด้วยทุกที่
.
.
ทั้งหมดนี่คือ 3 แอปพลิเคชันสำหรับใช้คุยงานที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เผื่อถึงในกรณีที่ต้องการย้ายจากการคุยงานบน LINE มายังแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่อาจสะดวกกว่า และตอบโจทย์การทำงานได้มากกว่า มาใช้แอปพลิเคชันเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเรากันเถอะ!
