หากคุณเคยโยนลูกบอลให้สุนัขไม่รู้กี่รอบ แล้วเห็นสายตาเปี่ยมความหวังของน้องให้โยนอีกครั้ง ไม่แน่นะ คุณอาจกำลังอยู่กับ “สุนัขที่เสพติดการเล่น” ก็ได้
เพราะล่าสุดทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Vetmeduni Vienna นำโดย ดร.สเตฟานี รีเมอร์ (Stefanie Riemer) ได้ทำการศึกษาสุนัขเลี้ยงจำนวน 105 ตัว เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมบางตัวถึงหลงใหลของเล่นอย่างรุนแรงจนคล้ายกับ “พฤติกรรมเสพติด” ของมนุษย์ ผลการศึกษานี้ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยนักวิจัยให้เจ้าของเลือกของเล่นสามชิ้น (ลูกบอล ตุ๊กตาผ้า และเชือกดึง) ที่คิดว่าสุนัขชอบที่สุด ก่อนให้สุนัขเลือกเองว่าชิ้นไหนโปรดที่สุด จากนั้นจึงทำการทดสอบ เช่น วางของเล่นไว้บนชั้นสูงเกินเอื้อม หรือซ่อนไว้ในกล่องที่ปิดสนิท แล้วดูปฏิกิริยาของสุนัขว่าพยายามแค่ไหนในการเข้าถึงมัน บางตัวถึงขั้นเห่า กระโดด หรือเมินอาหารที่วางฟรีเพื่อพยายามได้ของเล่นคืน นักวิจัยยังวัดด้วยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรให้สุนัขสงบลงหลังของเล่นหายไป ผลพบว่า 33 ตัวจากทั้งหมดแสดงพฤติกรรมคล้ายภาวะเสพติดของเล่น เช่น ความหมกมุ่น การทนรอไม่ได้ และการลดอารมณ์ยากเมื่อของเล่นถูกเอาออก
รีเมอร์อธิบายว่า “สิ่งที่สุนัขต้องการจริง ๆ ไม่ใช่ของเล่น แต่คือ ‘ความรู้สึกสนุก’ ที่เกิดจากการเล่นกับของเล่นนั้น” ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับที่มนุษย์เสพติดความรู้สึกดีจากบางกิจกรรม เช่น การพนันหรือเกม สุนัขที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้มักพบในสายพันธุ์เทอร์เรียร์และเชพเพิร์ด ซึ่งเดิมถูกพัฒนามาให้มีสมาธิสูงและกระตือรือร้นในการทำงาน ถึงแม้พฤติกรรมนี้พบไม่บ่อย (เพียงราว 3% จากการสำรวจสุนัขกว่า 1,600 ตัว) แต่ทีมวิจัยย้ำว่าการเล่นเป็นสิ่งสำคัญต่อทั้งสุขภาพจิตของสุนัขและความสัมพันธ์กับเจ้าของ “การเล่นคือภาษาของความผูกพันระหว่างคนกับหมา เป็นสิ่งที่ควรส่งเสริม ไม่ใช่ห้ามปราม” รีเมอร์กล่าว พร้อมเล่าว่าสุนัขของเธอเองก็หลงรักลูกเทนนิสไม่แพ้ใครเช่นกัน