7 การค้นพบ “ที่สุดในโลก” ในแวดวงวิทยาศาสตร์ประจำปี 2024

ปี 2024 ถือเป็นปีที่มีผลสำเร็จด้านการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและสร้างสถิติ “ที่สุดในโลก” ใหม่ๆ ในหลายด้าน พวกเราได้เห็นการพัฒนาและค้นพบที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความเข้าใจในธรรมชาติและจักรวาล แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์และผู้ที่สนใจในแนวทางการวิจัยที่ทันสมัยมากขึ้นด้วย โดยวันนี้เรารวบรวมมาให้ 7 การค้นพบที่น่าสนใจ ดังนี้


การระเบิดในชั้นบรรยากาศครั้งแรก

หนึ่งในการค้นพบที่โดดเด่นที่สุดในปีที่ผ่านมา มาจากงานศึกษาที่ระบุว่าเมื่อประมาณ 2.5 ล้านปีที่แล้ว มีอุกกาบาตเกิดการระเบิดในชั้นบรรยากาศของโลก และนี่คือเหตุการณ์การระเบิดกลางอากาศที่ “เก่าแก่ที่สุด” ที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ซึ่งต่างจากเหตุการณ์ที่สร้างหลุมอุกกาบาต โดยการระเบิดนี้ไม่ได้ทำให้เกิดร่องรอยที่มองเห็นได้ในพื้นดิน แต่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบมันผ่านการวิเคราะห์ทางเคมีจากหินจิ๋วที่ฝังอยู่ใต้ธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา ที่หินเหล่านี้มีธาตุโอลิวีนและสปินเนลอยู่ ทำให้นักวิจัยสามารถสรุปได้ว่าเป็นซากของอุกกาบาตที่เกิดการระเบิดในชั้นบรรยากาศเมื่อครั้งอดีตนั่นเอง


การสังเคราะห์แสงครั้งแรก

การค้นพบครั้งสำคัญอีกอย่างในปีที่ผ่านมาคือการค้นพบไมโครฟอสซิลจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหลักฐาน “เก่าแก่ที่สุด” ของกระบวนการสังเคราะห์แสงในโลก โดยแบคทีเรียฟอสซิลนี้มีอายุประมาณ 1.75 พันล้านปี ซึ่งมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับ Cyanobacteria ที่สามารถแปลงแสงแดดเป็นออกซิเจนได้ กล่าวคือการค้นพบนี้ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าการสังเคราะห์แสงเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้มากยิ่งขึ้น


กบเล็กที่สุดในโลก

ปีที่ผ่านมามีการค้นพบสัตว์สายพันธ์ุใหม่ ที่ชื่อว่า “เขียดฟลีบราซิล (Brachycephalus pulex)” ซึ่งถือว่าเป็นเขียดที่เล็กที่สุดในโลก มีความยาวเพียง 6.5 มิลลิเมตร เล็กมากจนสามารถนั่งอยู่บนเล็บนิ้วนางของคนได้ โดยเจ้าเขียดนี้มีขนาดเล็กกว่าตัวที่เล็กที่สุดที่เคยค้นพบก่อนหน้าถึง 1 มิลลิเมตร สิ่งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของชีวิตในโลก แต่ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงกระบวนการวิวัฒนาการและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน


กระโดดแบ็คฟลิปเร็วที่สุด

Dicyrtomina minuta หรือแมลงหางดีดสามารถกระโดดได้สูงถึง 60 มิลลิเมตรและหมุนได้เร็วถึง 368 ครั้งต่อวินาที โดยการค้นพบในปีนี้จากนักวิทยาศาสตร์ คือการพบกลไกการกระโดดและการค้นเจอว่ามัน “กระโดดกลับหลัง” เสียด้วย ทำให้แมลงหางดีดกลายเป็นสัตว์ที่สามารถทำ “แบ็คฟลิปได้เร็วที่สุดในโลก” ไปโดยปริยาย และยังแสดงถึงวิวัฒนาการที่น่าทึ่งในด้านกลไกการเคลื่อนที่ของสัตว์ขนาดเล็กด้วย


สาย DNA ที่ยาวที่สุด

การวิจัยเรื่ององค์ประกอบทางพันธุกรรมของพืชจำพวกเฟิร์นอย่าง Tmesipteris oblanceolata ได้เปิดเผยความจริงที่น่าทึ่งว่านอกเหนือจากการมีความยาวเพียง 15 เซนติเมตรแล้ว เฟิร์นชนิดนี้ยังมีจีโนมที่ใหญ่กว่ามนุษย์ถึง 50 เท่า พูดง่ายๆ ว่าถ้าหากเอา DNA ของมันมาขดออก จะมีความยาวถึง 100 เมตร การค้นพบนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องกลับมาทบทวนเกี่ยวกับลักษณะของพันธุกรรมในพืชต่างๆ และอาจส่งผลเชิงลึกต่อการศึกษาเกี่ยวกับแหล่งที่มาของชีวิต


เรืองแสงครั้งแรก

นอกจาเรื่องเกี่ยวกับสัตว์และองค์ประกอบทางพันธุกรรมแล้ว นักวิทยาศาสตร์ในปีที่ผ่านมายังได้ค้นพบอีกด้วยว่า บรรพบุรุษของกลุ่มปะการังในทะเลน้ำลึก เคยเรืองแสงในที่มืดเมื่อประมาณ 540 ล้านปีก่อน การค้นพบนี้ทำให้เราต้องมองย้อนกลับไปถึงวิวัฒนาการของสัตว์ที่สามารถเรืองแสงในธรรมชาติได้ กล่าวคือนี่ถือเป็น “ครั้งแรกที่มีการพิสูจน์ว่าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงได้” โดยถ้าเทียบกับชุดข้อมูลที่มีการค้นพบก่อนหน้า การค้นพบครั้งนี้ถอยหลังไปไกลกว่าเดิมเกือบ 200 ล้านปีเลยทีเดียว


ปมที่เล็กและแน่นที่สุด

ปมมีอยู่ในโลกมีหลายรูปแบบและขนาด ตั้งแต่ปมเล็กที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น ปีนเขา ไปจนถึงปมใหญ่ที่ใช้ผูกเรือ แต่ปีนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถออกแบบ “ปมที่มีขนาดเล็กที่สุดและแน่นที่สุดในโลก” ได้ ซึ่งเป็นปมที่มีรูปแบบเป็น trefoil ทำจากสายที่ประกอบด้วยอะตอมทองคำ ฟอสฟอรัส ออกซิเจน และคาร์บอนจำนวน 54 อะตอม โดยมีลักษณะการพันกันเป็นรูปสามชั้น การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ในด้านวิทยาศาสตร์ แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ในการศึกษาวัสดุและโครงสร้างในระดับจุลภาคได้อีกด้วย


จะเห็นได้ว่าปี 2024 เป็นปีแห่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่แสนน่าทึ่ง โดยเราพบหลักฐานใหม่ๆ มากมายที่สามารถต่อยอดไปสู่องค์ความรู้อีกมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการยืนยันถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างไม่หยุดยั้งในยุคสมัยปัจจุบัน