เคยเป็นไหม เวลาที่ต้องการมุ่งสมาธิหรือโฟกัสมากๆ สิ่งรบกวนรอบตัวมักดึงความสนใจจากเราไปเสียทุกที ยิ่งยุคนี้ที่ทุกอย่างต่างตะโกนเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้ตะโกนมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าการมุ่งสมาธิยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม ท่ามกลางทุกอย่างที่พร้อมพาให้เราหลุดจากสิ่งที่ต้องการตลอดเวลา
แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ในยุคนี้หรอกที่สิ่งนี้เป็นปัญหา เพราะต่อให้ย้อนเวลากลับไปเป็นร้อยปี ความพยายามมุ่งสมาธิไปกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าถือเป็นเรื่องยากและเป็นปัญหาต้ังแต่ตอนนั้นแล้ว แต่นั่นเองที่ทำให้เกิด ‘การแก้ปัญหา’ ตามมา ในรูปแบบนวัตกรรมที่ชื่อว่า “The Isolator”
“The Isolator” (ผู้แปลกแยก) คืออุปกรณ์สวมใส่หน้าตาน่าเกรงขามที่เปิดตัวครั้งแรกบนปกนิตยสาร Science and Invention ฉบับเดือนกรกฎาคม ปี 1925 โดยเป็นผลงานของ Hugo Gernsback นักประดิษฐ์ชาวสหรัฐอเมริกาที่ได้หล่นวาทะไว้ในนิตยสารฉบับดังกล่าวว่า “สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับมนุษย์คือการเผชิญหน้ากับการทำสมาธิ”
โดยถ้าหมุนเข็มนาฬิกากลับไปที่ยุคสมัยนั้น การรบกวนสมาธิที่เจิร์นสแบคหมายถึงคือความเปลี่ยนแปลงในสังคม ที่เสียงจำพวกเสียงกริ่ง หรือเสียงตามท้องถนนเริ่มมีมากขึ้นในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และคอยดึงความสนใจจากคนทำงานอยุ่ตลอดเวลา จนทำให้เกิดภาวะที่หลายคนพยายามขังตัวเองอยู่ในห้องส่วนตัวเพื่ออยู่ในภาวะเก็บเสียงให้ได้มากที่สุด
ซึ่งเพราะเห็นความเป็นไปดังกล่าว เจิร์นสแบคผู้มีความเป็นนักประดิษฐ์อยู่ในเนื้อในตัว จึงเลือกสร้างนวัตกรรมชิ้นหนึ่งขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ โดยการสร้างหมวกกันน็อคขนาดมหึมาที่บุด้วยไม้ก๊อกและหุ้มด้วยผ้าสักหลาดำไว้ภายใน เพื่อให้คนสวมใส่ราวกับไอรอนแมน พร้อมเจาะรู้แผ่นกั้นไว้สำหรับหายใจและเจาะรูม่านตาพร้อมติดตั้งกระจกมองทะลุไว้ด้วย แต่สิ่งที่พิเศษคือการที่เจิร์นสแบคทาสีดำบางๆ ลงบนกระจกทั้ง 2 ข้าง เพราะเขาอยากให้คนที่ใส่หมวกกันน็อกนี้ “แทบมองไม่เห็นสิ่งใด ยกเว้นแผ่นกระดาษที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น”
อีกทั้งเพื่อป้องกันการง่วงนอน เจิร์นสแบคยังได้ติดตั้งถังออกซิเจนขนาดเล็กเชื่อมต่อไว้กับหมวกกันน็อคอีกต่างหาก โดยเขาตั้งใจให้ออกซิเจนช่วยเพิ่มการหายใจ และทำให้คนใส่รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา จากทั้งหมดนี้เองเจิร์นสแบคจึงได้เขียนสรุปว่าไว้สิ่งประดิษฐ์ของเขาสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติงานมุ่งความสนใจไปอยู่กับสิ่งที่ต้องการได้อย่างร้อยเปอร์เซนต์แน่นอน
เอาเข้าจริงต่อให้มองด้วยสายตาปัจจุบัน เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะพอเดาได้ว่า The Isolator ไม่น่าจะได้รับความนิยมแน่ๆ ซึ่งในความเป็นจริงคือมากกว่านั้นเสียอีก เพราะ The Isolator ทำได้แค่เพียงอยู่บนหน้าปกนิตยสารเล่มดังกล่าวเท่านั้น เนื่องจากหลังจากตีพิมพ์ออกไป ไม่ได้มีผู้สนใจมากพอ ทำให้เจิร์นสแบคทำได้แค่จดสิทธิบัตรของสิ่งประดิษฐ์ไว้และไม่เคยผลิต The Isolator ออกมาขายแก่คนทั่วไปเลยสักครั้ง
แต่ถึงจะเป็นนวัตกรรมที่เกิดและดับไปแม้เพียงในเวลาสั้นๆ แต่การหันกลับไปมองจุดกำเนิด ความเป็นมาและจุดจบของมันก็สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดและความพยายามของผู้สร้าง อีกอย่างคือต่อให้ไอเดียนี้ไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยการไม่จำยอมต่อสิ่งรบกวนที่เข้ามาดึงสมาธิ ก็ถูกส่งต่อให้กับทุกคนที่อ่านบทความเกี่ยวกับ The Isolator ในนิตยสารนั้นแล้ว และก็เป็นการไม่จำยอมประเภทเดียวกันนี้เอง ที่ทำให้ในเวลาต่อมา เราได้รู้จักสิ่งที่เรียกว่า ’หูฟังตัดเสียงรบกวน’ จนกลายเป็นทคโนโลยีหลักที่มนุษย์ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
ดังนั้นถึง The Isolator จะไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคิดและความตั้งใจของเจิร์นสแบคนั้นควรค่าแก่การพูดถึง และไม่แน่นะ ในสิ่งประดิษฐ์ที่ล้มเหลวเมื่อครั้งอดีต ถ้าเรามาถอดรูปลักษณ์ออกจนเหลือแต่ความตั้งใจของผู้สร้าง เราอาจได้ไอเดียใหม่ๆ ที่สามารถต่อยอดในปัจจุบันก็ได้ ใครจะรู้