ที่สัญญาว่าจะทำตอนปีใหม่ ได้เริ่มหรือยัง ? แนะนำ 3 แอปฯ Habit Tracker เพื่อคนอยากปรับนิสัย

ที่สัญญาว่าจะทำตอนปีใหม่ ได้เริ่มหรือยัง ? 
แนะนำ 3 แอปฯ Habit Tracker เพื่อคนอยากปรับนิสัย 

_________


⠀⠀⠀ตอนเริ่มต้นปีใหม่ สัญญากับตัวเองและคนรอบข้างไว้ดิบดี ตั้งเป้าว่าจะเปลี่ยนนิสัย ปรับการใช้ชีวิต ให้เป็นคนที่ดีขึ้น มีความสุขขึ้น แต่ผ่านมาสามเดือนแล้วยังไม่ได้เริ่มเลยนี่สิ ทำไงดี! 

เข้าใจล่ะ ว่าหนึ่งวันเรามีสิ่งต้องทำกันเป็นพันอย่าง จะให้เริ่มด้วยตัวเองก็คงเป็นเรื่องยาก ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องมีตัวช่วย อย่างแอปพลิเคชันติดตามพฤติกรรม (Habit Tracker) ไว้คอยเป็นเครื่องเตือนใจว่าวันนี้ฉันทำอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งเราได้ยกมาแนะนำด้วยกัน 3 แอปฯ ที่ให้การรองรับทั้งระบบ Android และ iOS

พอกันที กับ “พรุ่งนี้ค่อยทำแล้วกัน” ฉันจะเป็นคนใหม่ที่ดีพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เริ่ม! 


ก่อนไปทางไหน แวะมาดูกันสักนิด Habit Tracker คืออะไร

⠀⠀⠀“Habit Tracker” คือเครื่องมือหนึ่งที่ใช้สำหรับการติดตามพฤติกรรมของเราในแต่ละวัน อาจเป็นได้ทั้งรูปแบบการจด-ติ๊กไว้บนกระดาษ เขียนไว้บนกระดานส่วนตัว หรือการบันทึกลงในแอปพลิเคชัน แต่ประเด็นหลักของการทำ Habit Tracker คือการติดตามผลว่า วันนี้เราทำอะไรไปแล้วบ้าง เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้หรือยัง

ยกตัวอย่าง หากเราตั้งเป้าจะอ่านหนังสือให้ได้วันละ 10 หน้า เป็นเวลา 1 เดือน วันนี้เราอ่านได้ตามที่ตั้งเป้าจริง เราก็ติ๊กลงไปใน Habit Tracker ว่าเราได้ทำสำเร็จแล้ว วันไหนไม่ได้ทำก็เว้นว่างไว้ อย่างนี้เรื่อยไปจนครบกำหนดเป้าหมาย 

ซึ่งอาจจะฟังดูเป็นวิธีการติดตามผลที่ไม่มีอะไรพิเศษ แต่การติดตามผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จนกลายเป็นนิสัยติดตัวด้านดีได้เลยทีเดียว

⠀⠀⠀โดยมีการวิจัยพบว่า ผู้ที่ตั้งเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งไว้ แล้วติดตามความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมาย อาทิ การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย การเลิกกินหวาน การออมเงิน มีแนวโน้มจะทำได้ดีและสำเร็จได้มากกว่าคนที่ไม่ติดตาม นั่นจึงสามารถพิสูจน์ได้ว่า การทำ Habit Tracker เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยผลักดันให้การตั้งเป้าหมายทำได้สำเร็จมากขึ้นนั่นเอง


ข้อดีของการทำ Habit Tracker 

ช่วยเพิ่มแรงจูงใจ — การได้บันทึกสิ่งที่ทำสำเร็จลงใน Habit Tracker ทุกวัน คล้ายกับการให้รางวัลตัวเอง เป็นชัยชนะเล็ก ๆ รายวัน ที่ช่วยสร้างกำลังใจให้เราอยากทำให้สำเร็จอีก 

มองเห็นปลายทางความสำเร็จ — การมี Habit Tracker จะช่วยให้เราเห็นว่าเราปรับพฤติกรรมตัวเองมากี่วันแล้ว และเหลืออีกกี่วันที่จะถึงเป้าหมาย ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ ฮึด! อยากทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้ 

มีภาพรวมให้เห็นเป็นรูปธรรม — การบันทึกเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ละครั้งจะส่งผลย้อนกลับให้มองเห็นสัญญาณบางอย่างว่า สิ่งที่มุ่งมั่นทำอยู่นั้นกำลังคืบหน้า หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน ช่วยให้เราย้อนกลับมาทำตัวเองว่าที่เราไม่ทำตามแผนนั่นเพราะอะไร มีการติดขัดอย่างไร บางครั้งก็ช่วยให้เรามองนิสัยบางอย่างในตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน 


แนะนำ 3 แอปฯ Habit Tracker เพื่อคนอยากปรับนิสัย


1. Productive - Habit Tracker 

⠀⠀⠀ประเดิมกันด้วย Productive แอปพลิเคชันสำหรับการตั้งเป้าหมายและติดตามพฤติกรรมโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับหน้าแอปฯ (Interface) ที่ใช้งานแสนง่าย ไม่ซับซ้อน และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย โดยมีจุดเด่นคือ ... 

  • สามารถตั้งเป้าหมายได้ตั้งแต่เริ่มใช้งาน
  • มีฟีเจอร์ตั้งแต่การวางแผนกิจกรรมที่ต้องทำประจำวัน, การตั้งเป้าหมายเพื่อปรับนิสัย, การติดตามความคืบหน้าของเป้าหมาย ไปจนถึงการสรุปผลรวมของกิจกรรมที่เราทำ
  • ยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งกิจกรรมในแอปฯ ได้อย่างอิสระ
  • มีกิจกรรมท้าทาย (Challenges) ให้เข้าร่วมแข่งขันกับคนทั่วโลก เพื่อปลดล็อกเป้าหมายใหม่ ๆ ในชีวิต และหากทำสำเร็จจะได้รับรางวัลอีกด้วย 
  • มีฟีเจอร์รองรับการเขียนบทความสั้น ๆ ให้ผู้ใช้งานได้เอาคำแนะนำมาแชร์กัน

⠀⠀⠀เหมาะกับใคร : เจ้าแอปฯ Productive นี้ เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีเป้าหมายและอยากทำให้สำเร็จจริง ๆ เพราะตัวแอปฯ จะคอยส่งการแจ้งเตือนและติดตามความคืบหน้าให้เรา ใครที่กำลังอยากปรับนิสัย เปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือพัฒนาตัวเอง แอปฯ นี้ตอบโจทย์สุด ๆ 


2. TickTick : To-Do List & Calendar 

⠀⠀⠀มาต่อกันที่แอปพลิเคชัน TickTick ที่มีจุดเด่นคือการใส่ฟีเจอร์สำหรับการจัดการชีวิตประจำวันมาให้แบบครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็น ...

  • ฟีเจอร์รวมลิสต์สิ่งที่ต้องทำ บันทึกกิจวัตรประจำวัน และกิจกรรมที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำให้สำเร็จ 
  • มีปฏิทินแสดงภาพรวมกิจกรรมของเราในแต่ละวัน
  • สามารถจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำได้อย่างอิสระด้วยฟีเจอร์ Eisenhower Matrix
  • ช่วยเรื่องการบริหารจัดการเวลา ด้วยฟีเจอร์ Pomodoro ที่ให้เราตั้งค่าได้ว่าจะใช้เวลาโฟกัสกับสิ่งที่ทำแต่ละอย่างนานแค่ไหน ตัวแอปฯ ก็จะจัดสรรเวลาให้เราได้จดจ่อกับแต่ละกิจกรรมอย่างเต็มที่ โดยจะมีเสียงดนตรีคลอช่วยสร้างสมาธิ 
  • ข้อดีคือสามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ และให้การรองรับหลายระบบ

⠀⠀⠀เหมาะกับใคร : สำหรับใครที่มีตารางชีวิตแสนยุ่งเหยิง จนไม่สามารถปรับพฤติกรรมพร้อมทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ของตัวเองได้ TickTick คือคำตอบของคุณเลย เพราะตัวแอปฯ จะช่วยทั้งการจัดการเวลา คอยเตือนสิ่งที่ต้องทำ และย้ำให้เราไม่ลืมเป้าหมาย เรียกว่าดาวน์โหลดแอปฯ เดียว ครบ จบ ได้เลยทันที


3. Forest : Focus for Productivity

⠀⠀⠀ปิดท้ายด้วยแอปพลิเคชันแสนน่ารักและดีต่อใจอย่าง Forest ที่อาจไม่ได้ให้ฟีเจอร์ด้านการตั้งเป้าหมายมา แต่เน้นไปที่การคุมเข้มให้เราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องทำ ด้วยลูกเล่นน่ารัก ๆ อย่างการให้เราตั้งเวลาที่ต้องการโฟกัส และเมื่อกดเริ่ม เราจะได้ต้นกล้าเล็ก ๆ มา 1 ต้น และมันจะค่อย ๆ โตขึ้นตามเวลาที่เราโฟกัส

โดยตัวแอปฯ จะทำการล็อกหน้าจอของเราไว้ หากเรากดออกก่อนเวลากำหนด ต้นไม้ของเราก็จะถูกตัดไป ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกเสียดายและบังคับตัวเองให้อยู่จนครบเวลานั่นเอง นอกจากนี้ ตัวแอปฯ ยังมีจุดเด่นอื่น นั่นคือ ...

  • สามารถกำหนดกิจกรรมที่โฟกัสได้ว่าจะให้มีการพักเบรกไหม เผื่อในกรณีที่มีความจำเป็นต้องหยุดการโฟกัส เพื่อไม่ให้ต้นไม้ต้องตาย
  • ทุกครั้งที่เราทำสำเร็จ ต้นไม้ที่เราปลูกจนโต สามารถนำมาจัดเป็นป่าเล็ก ๆ ภายในแอปพลิเคชันได้อย่างน่ารัก
  • ทุกความสำเร็จ จะได้การสะสมเป็นเหรียญทอง ซึ่งสามารถนำไปแลกกับทางแอปฯ เพื่อปลูกต้นไม้จริงได้ 
  • มีการเก็บสถิติรวบยอดให้อย่างละเอียด เพื่อดูความคืบหน้าของการโฟกัส 

⠀⠀⠀เหมาะกับใคร : เจ้าแอปฯ Forest เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากหักดิบ ลดการเล่นสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่อมาทำอย่างอื่น (อาจใช้จังหวะนี้ทำในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็ได้) ซึ่งนอกจากจะได้การจดจ่อที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มต้นไม้จริงเข้ามาในระบบนิเวศอีกด้วย  

⠀⠀⠀ข้อจำกัด: การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Forest มีค่าใช้จ่าย (สำหรับใครที่ไม่ประสงค์จะเสียทรัพย์ มีอีกตัวเลือกที่คล้ายคลึงกัน คือแอปพลิเคชัน Plantie - Stay Focused ซึ่งต่างกันในส่วนที่ไม่สามารถแลกเหรียญเพื่อนำไปปลูกต้นไม้จริงได้)


เอาล่ะ ตัวช่วยก็พร้อมแล้ว ได้เวลาไปทำตามเป้าหมายที่วางไว้กัน! 


#CMUSTeP #MakeInnovationSimple #CreativeSTeP #Application #HabitTracker #Productive #Focus