⠀⠀⠀เรียกว่าเป็นประเด็นที่สร้างความฮือฮาให้กับทั้งโลกเลยทีเดียว หลังนักข่าวและนักวิจัยชาวเม็กซิโกได้นำซากฟอสซิลที่อ้างว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว 2 ร่าง ออกมาแสดงกลางรัฐสภาเม็กซิโก ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ จากนั้นก็ตามมาติด ๆ ด้วยแถลงการณ์ขององค์การอวกาศอย่าง นาซา (NASA) ที่ออกมาประกาศตั้งคณะกรรมการในการศึกษาปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายเหล่านี้อย่างจริงจัง
หลายคนที่เพิ่งติดตามข่าวอาจเริ่มตั้งคำถามว่า 2 เหตุการณ์นี้เกี่ยวพันกันหรือไม่ และบทสรุปเป็นอย่างไร เราจะมาไล่เรียงให้เข้าใจง่าย ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
เกิดอะไรขึ้นในรัฐสภาเม็กซิโก ?
⠀⠀⠀เมื่อวันอังคารที่ 12 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ไฮเม เมาส์ซัน นักข่าวและนักวิจัยชาวเม็กซิโก ผู้สนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาวและจานบินยูเอฟโอ ได้นำสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็น “ซากฟอสซิลเอเลี่ยน” มานำเสนอต่อรัฐสภาเม็กซิโก ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ เพื่อยืนยันกับคนทั้งโลกว่า “เราไม่ได้อยู่คนเดียว”
เมาส์ซัน อ้างว่า ฟอสซิลเอเลี่ยนที่มีนิ้วมือข้างละสามนิ้ว หัวยืดออกเล็กน้อยนี้ มีอายุประมาณ 1,000 ปี ถูกพบในประเทศเปรู เมื่อปีพ.ศ. 2560 พร้อมกล่าวอีกว่า ซากเหล่านี้ได้ถูกวิเคราะห์โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติของเม็กซิโก (UNAM) ด้วยวิธีการสกัดดีเอ็นเอและตรวจสอบหาอายุฟอสซิลจากคาร์บอนกัมมันตรังสี พบว่ากว่า 30% ของซากนี้ที่ถูกสกัดออกมาแล้ว “ไม่มีดีเอ็นเอจากมนุษย์” และพร้อมเปิดกว้างให้สถาบันทางวิทยาศาสตร์ทุกแห่งบนโลกตรวจสอบ
มีความเป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกจริง ๆ ?
⠀⠀⠀การเผยแพร่นี้นำไปสู่การตั้งคำถามและถกเถียงกันอย่างมากจากทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านซากดึกดำบรรพ์หลายคนได้ออกมาให้ความเห็นต่อการค้นพบครั้งนี้ว่า มีความความคล้ายคลึงกับการค้นพบ “ซากเอเลี่ยน” ก่อนหน้านี้ ซึ่งในครั้งนั้นได้ข้อสรุปว่าเป็นมัมมี่เด็กจากนัซกา ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรด่วนสรุปว่าซากฟอสซิลที่นำมาเผยแพร่ในรัฐสภาเม็กซิโกเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากต่างดาว จนกว่าจะมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพียงพอ
พูดง่าย ๆ ว่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็น “เอเลี่ยน” จริงไหม จนกว่าจะมีการเจอหลักฐานจากซากเหล่านี้ที่เพียงพอต่อการยืนยันว่าเป็นเอเลี่ยนจริง ๆ แต่จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญหลายคนแล้วมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ใช่
NASA ออกมาแถลงการณ์ตอบโต้ในเรื่องนี้หรือเปล่า ?
⠀⠀⠀ไม่ใช่เสียทีเดียว แถลงการณ์ดังกล่าวของ NASA ได้มีประกาศกำหนดการมาก่อนหน้า และในการแถลงครั้งนี้ แม้จะเป็นการพูดถึงในประเด็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งที่อธิบายไม่ได้ แต่ NASA ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเปิดเผยซากฟอสซิลในรัฐสภาเม็กซิโกแต่อย่างใด
แล้วแถลงการณ์ของ NASA บอกอะไรเรา ?
⠀⠀⠀แถลงการณ์ในครั้งนี้ของ NASA เป็นการออกมาประกาศชัดว่า จากข้อมูลทั้งหมดที่ NASA มีนั้น “ยังไม่เคยพบหลักฐานที่น่าเชื่อถือและพิสูจน์ได้” ว่าเป็นวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลก
พร้อมแสดงจุดยืนว่าหน่วยงานด้านอวกาศอย่าง NASA กำลังลงมาศึกษาเรื่องราวเหล่านี้อย่างจริงจัง โดยมีการตั้งทีมคณะกรรมการศึกษา “ปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ (Unidentified Anomalous Phenomena: UAP)” ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ
การมีคณะกรรมการศึกษา UAP ดีอย่างไร ?
⠀⠀⠀UAP นั้น เป็นคำที่ NASA เลือกนำมาใช้แทนคำว่า UFO โดยการตั้งทีมดังกล่าว จะช่วยให้ปรากฎการณ์เหล่านี้ได้รับการศึกษาอย่างเป็นระบบ และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในการเก็บข้อมูลและหาคำอธิบาย ซึ่งจะส่งผลให้การพบเห็น การวิเคราะห์ และการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับปรากฎการณ์ประหลาดต่าง ๆ สามารถทำได้อย่างตรงไปตรงมามากขึ้น ภาคประชาชนจะได้เห็นภาพบันทึกหรือหลักฐานที่เคยถูกเก็บเป็นความลับมาก่อน รวมถึงประเด็นเรื่อง UFO เอเลี่ยน หรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก ก็จะกลายเป็นสิ่งที่สามารถถกกันได้โดยอาศัยอคติที่น้อยลง
เรียกง่าย ๆ ว่า หากในอนาคตมีปรากฎการณ์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวเกิดขึ้น คณะกรรมการ UAP ก็จะมารับจบให้ทุกขั้นตอนนั่นเอง
สรุปว่าจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการพบหลักฐานของสิ่งมีชีวิตต่างดาวเลยใช่ไหม ?
⠀⠀⠀หากเป็นหลักฐานที่พบบนพื้นผิวโลกของเรา ต้องตอบว่า “ยังไม่มี”
⠀⠀⠀แต่ก็มีการค้นพบจากนอกโลกที่น่าสนใจอยู่เช่นกัน นั่นคือเมื่อไม่นานนี้ กล้องเจมส์ เว็บบ์ได้ตรวจพบองค์ประกอบที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ K2-18 b ซึ่งโคจรอยู่ในเขตเอื้อต่อการดำรงอยู่ของชีวิต
โดยข้อมูลจากกล้องพบว่าดาวดวงนี้ มีโมเลกุลที่เป็นองค์ประกอบของชีวิต อย่างมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ ในชั้นบรรยากาศ ทั้งยังมีการค้นพบไดเมทิลซัลไฟด์ ที่บนโลกเราสามารถพบโมเลกุลดังกล่าวได้จากสิ่งมีชีวิตอย่างแพลงก์ตอนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ K2-18 b จะโคจรอยู่ในเขตเอื้อต่อการดำรงอยู่ของชีวิต และมีโมเลกุลที่เป็นองค์ประกอบของชีวิตในบรรยากาศ แต่ก็มีสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้เอื้อต่อชีวิตเหมือนกับบนโลก ทำให้ ‘ยัง’ ไม่สามารถสรุปได้ว่าการค้นพบในครั้งนี้ เท่ากับการพบชีวิตบนดาวดวงอื่น แต่นั่นก็ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญต่อการศึกษาชีวิตนอกโลกไม่น้อยเลยทีเดียว
⠀⠀⠀แม้จะเป็นที่น่าเสียดายว่าบทสรุปของวันนี้ จะยังไม่ใช่การค้นพบที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล แต่เราก็หวังว่าสักวัน เราอาจได้พบหลักฐานที่หนักแน่นมากพอ ที่จะยืนยันได้ว่า “เราไม่ได้อยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้เพียงลำพัง”
#CMUSTeP #MakeInnovationSimple #CreativeSTeP #เอเลี่ยน #แถลงการณ์นาซา #NASA
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก
https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2725258
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7866425